วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่จำเป็นสำหรับการเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ควรเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่อยู่ในรูปแบบของข้อความ ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง และอื่น ๆ ดังนั้นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่จะนำมาใช้งาน ควรมีส่วนประกอบดังต่อไปนี้ คือ

เครื่องคอมพิวเตอร์?(Computer) ควรมีลักษณะดังนี้คือ
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ควรมีความเร็วไม่ต่ำกว่า 233 เมกกะเฮิรตซ์ (MHz)
หน่วยความจำสำรอง (Random Access Memory) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Ram ไม่ควรน้อยกว่า 32 เมกกะไบท์ (MB.)
ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Hard Disk Drive) ไม่ควรมีขนาดน้อยกว่า 1.2 กิกะไบท์ (Gigabytes

2.โมเด็ม (Modem)? ถือเป็นหัวใจของการใช้งานอินเตอร์เน็ต ควรมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่น้อยกว่า 28.8 Kbps (Kilobit per second) ปัจจุบันโมเด็มที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีขายตามท้องตลาดทั่วไปสามารถรับส่งข้อมูลได้ถึง 56 Kbps ซึ่งมีทั้งแบบติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ (Internal Modem) และแบบติดตั้งภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ (External Modem)
3.โทรศัพท์?(Telephone) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ต โดยสามารถใช้สายโทรศัพท์ที่เป็นโทรศัพท์บ้านสายตรง ต่อเข้ากับโมเด็มที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มารู้จักบล็อกกัน

บล็อก (blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์

ผู้หญิงเป็นไงในสายตาผู้ชาย

ใครเคยมีรัก คงรู้ซึ้งถึงคำว่า แฟนเก่า หรือ อดีตคนรัก ใช่มะอู้ยอย่าทำส่ายหน้าหน่อยเลย... อยู่มาจนป่านนี้แล้วจะให้เชื่อหรือว่า ยังไม่เคยรักใครจริงๆอ่ะ ในเมื่อเป็นแฟนเก่า ก็แสดงว่า พวกคุณเลิกคบหากันแล้ว ไม่ว่าจะเลิกกันด้วยเหตุใด เพราะการเลิกเนี่ย มีรายละเอียดเยอะเหลือเกิน ถ้าสรุปรวบรัด เชื่อว่าความรู้สึกที่ยังเหลืออยู่กับ แฟนเก่า น่าจะแบ่งได้เป็น 3 ประการ ก.ไม่อยากเจอกันอีกแล้ว เพราะเข็ด, เซ็งหรือเจ็บแล้วต้องจำก็เหอะ ทำกันไว้แรงก็งี้แหละ ข.ยังโอภาปราศรัยกันอยู่ แต่น้าน นานถึงจะเจอกันที อาจเคยทำกันไว้เจ็บ แต่ก็ลืมๆ ไปแล้ว หรือ ค.ยังรักกันอยู่ เป็นเพื่อนกันได้ บางรายมีแฟนเก่าเป็นเพื่อนสนิทด้วยซ้ำ มีไว้แทะโลม...เอ้ยปรึกษาหารือก็ยังดีผู้ชายบางคนที่เคยมีแฟนแล้ว และต้องเลิกรากันไป คงเคยเกิดอาการแบบนี้กันบ้าง คิดไม่ถึงเล้ย...ว่าผู้หญิงจะเป็นแบบนี้ แบบไหนน่ะเหรอ ก็ทำนองนี้ไงเล่า
1. ผู้หญิงนะเหรอ ไม่ เคยพอใจอะไรง่ายๆหรอก สังเกตดูเดะเวลาแฟนหนุ่มทำอะไรก็แล้วแต่ ให้หล่อนงี้ โอ้ยไม่เห็นเธอชอบสิ่งที่เค้าทำให้เลย มีแต่จะติโน่นตินี่ ใครว่ามีแต่ ผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นของตายน้า เพราะผู้หญิง (บางคน) พอมีแฟน ก็ย่ามใจคิดว่าแฟนของเธอเป็น ของตาย จะรักก็ได้ จะแกล้งก็สนุก หรือทำเป็นบ่นให้เขาเสียความรู้สึกบ่อยๆ ก็มี
2. ผู้หญิงอยากควบคุมและครอบงำแฟนของเธอล่ะสิ ถ้าหล่อนควบคุมความคิดและการกระทำของแฟนได้ ต่อไปหล่อนก็ไม่ต้องกังวลว่าเค้า จะแหกคอกหนีไปมีใครอื่น แถมยังง่ายที่จะตะล่อมให้เค้าทำอะไรตามที่เธอปรารถนาด้วย โอ้ย ไม่รู้ว่าเรื่องบนเตียงหล่อนก็อยากเป็นฝ่ายคุมเกมรึเปล่าเนอะ แต่จะมีชายสักกี่คนเชียวที่ปล่อยให้สาวจูงจมูกได้ มีแต่สาวๆ มากกว่ามั้งที่โดนจูงจมูกน่ะ
3. ผู้หญิงขี้อิจฉาแถมชอบแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของซะด้วยดิ เออจริงนะ แต่ สาวๆ แค่ไม่อยากให้ แฟนของหล่อนไปให้ความสำคัญกับผู้หญิงอื่น จนเกินความพอดี มากกว่า จึงต้องแสดงความเป็นเจ้าของ เชอะ อิจฉง อิจฉาอะไร กล่าวหากันชัดๆ อีกอย่างถ้าหล่อนเป็นเจ้าของจริง แล้วทำไมจะแสดงออกว่าเป็นเจ้าของไม่ได้นะ แปลกจริงเชียว ทำหยั่งกะฝ่ายชายไม่ชอบแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของหรือเป็นแฟนกะสาวๆ งั้นแน่ะ ผู้ชายสติแตกเพราะหึงหวงก็มี นี่ยิ่งกว่าอิจฉาอีก เพราะหึงน่ะ นอกจากกินไม่ได้แล้ว ยังทำอันตรายให้ผู้อื่นด้วย ถึงแม้ผู้หญิงแสดงอาการหึงบ่อยกว่าก็เหอะน่า
4. ผู้หญิงใช้อารมณ์มากเกินไป บางคนจู่ๆ ก็ชอบร้องไห้ให้แฟนสงสาร บางรายถ้าโกรธเมื่อไหร่ ต่อให้ง้อหล่อนแค่ไหน นู่นเลยอีก 7 วัน ค่อยได้พูดกันก็เห็นมาแล้ว ไม่รู้เรอะว่า เป็นเรื่องยากที่สาวๆ จะควบคุมฮอร์โมนขึ้นๆ ลงๆ ของตัวเองได้
5. ผู้หญิงชอบคาดหวังจากแฟนจะตาย ทั้งๆที่ทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกันนี่หว่า แล้วหล่อนยังจะคาดหวังให้แฟนของ ตัวดีเลิศประเสริฐศรี ทั้งด้านการงาน, เงินเดือน และความรับผิดชอบต่อการใช้ชีวิตคู่... ไม่มากไปเรอะ...เอ้าก็ผู้ชายอยากเป็นช้างเท้าหน้าไม่ใช่รึ
6. ผู้หญิงชอบขโมยความอิสระไปจากพวกผู้ชายว่าไหมล่ะ ลองเป็นแฟนกะหล่อนดิ สาวๆ ส่วนใหญ่จะเรียกร้องขอเวลา, ขอความสนใจ และขอความเห็นใจจากผู้ที่ตกหลุมมาเป็นแฟนกะเธอแน่ๆ แต่ก็อีกถ้าไม่ให้หล่อนเรียกร้อง สิ่งต่างๆ เหล่านี้จากแฟนแล้วจะให้ไปสนใจใครว้า ขืนเป็นแฟนกันแต่ไม่มีเวลาให้กัน แล้วจะเป็นแฟนไปทำมั้ย ก็มันต่างจากเป็นโสดตรงไหนล่ะ
แหม...วิพากษ์วิจารณ์อิสตรีซะอร่อยเหาะไปเลยนะส่วนสาวๆ ก็ฟังไว้ขำๆ ล่ะกันว่า หนุ่มๆ มีทัศนคติอย่างนี้กะหล่อน มนุษย์ต่างคนก็ต่างคิดกันไปเรื่อยเปื่อย จึงมีทั้งสิ่งที่จริงและไม่จริงปนกัน จะกระต่ายตื่นตูมไปไยในเมื่อผู้ชายเค้าก็มีจุดอ่อน และพยายามกำจัดจุดอ่อนของเค้าเหมียนกัน

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

รู้ได้อย่างไรว่าใครเจ้าชู้

แต่ไหนแต่ไรผู้หญิงกลัวเหลือเกินหากมีแฟนเป็นคนเจ้าชู้ ดังนั้น ถ้าหล่อนไม่แน่ใจว่า คนที่คบอยู่ด้วยตอนนี้จะมีนิสัยอย่างที่เธอหวั่นใจไว้หรือไม่?
หล่อนจะพยายามรักษาระยะห่างไว้บ้าง ยังไงก็คงไม่ เข้าไปใกล้ให้เปลืองกายเปลืองใจแม้เธอจะชอบเค้าก็ตาม นู่นแนะจนกว่าจะรู้จริงว่าเค้าเจ้าชู้ หลายรักรึเปล่านั่นแหละ ถึงค่อยตัดสินใจกันอีกที ว่าควรเป็นแฟนหรือชิ่งหนีดีกว่ากันมาจับสังเกต ว่า ความเจ้าชู้ของคนเราน่ะ มักแสดงออกด้วยการกระทำหรือพฤติกรรม อย่างไรบ้าง?
อ้อ ขอเตี๊ยมก่อนว่า ในที่นี้ขอพูดรวมๆ ทั้งชายและหญิงที่เจ้าชู้ไปเลย ในเมื่อมีทั้งคำเรียกที่ว่า คาสโนว่า และ คาสโนวี่ นี่นา แล้วจะให้อดใจไม่พูดถึงคู่กันก็กระไรอยู่นะงั้น มีพฤติกรรมไหนบ้างน้า ที่ส่อสันดาน...เอ้ย ส่อแววว่าเจ้าชู้แหงๆ แท่น แท้นเช่น....
1. คนเจ้าชู้มักเป็นคนใจง่ายเห็นใครหน้าตาดี หรือหุ่นเพอร์เฟกต์หน่อยไม่ได้ เป็นต้องถลาเข้าหา เผื่อฟลุกได้พูดคุยกับคนที่เค้าเหล่ด้วยยิ่งดี จะได้ชวนไปเที่ยวด้วยกันซะเลยทว่า อีกฝ่ายจะเล่นด้วยรื้อ เพราะสมัยนี้มีคนวิกลจริต และโรคจิตยั้วเยี้ยในสังคมเต็มไปหมด ฉะนั้นถ้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เห็นทีคนเจ้าชู้อาจเป็นแค่สุนัขแหงนมองเครื่องบินก็ได้ เพราะยังไม่ทันคุ้นเคยหรือรู้จักมักจี่กันสักกะติ๊ด แต่พี่แกเล่นจ้องเอ๊า จ้องเอา หรือปรี่เข้ามาหลีเลย ย่อมทำให้ฝ่ายถูกตื๊องงสิเพ่ และทันใดนั้นก็เริ่มคิดในใจว่า เอ๊ะควรคุยกับจอมหลีรายนี้ดีไหม?
ถ้าขืนคุยด้วยเดี๋ยวเค้าไปตีความเข้าข้างตัวเองว่าเราชอบเค้าเหมือนกัน ก็ซวยสิ กระนั้นคนเจ้าชู้แบบกรุ้มกริ่มอยู่ในใจไม่เปิดเผยโจ่งแจ้งก็มีนะ รายนี้จะเอาแต่มองไว้ก่อน รอให้เหยื่อสบตากลับมาแล้วค่อยเข้าหา กะว่า ช้าๆได้พร้าเล่มงาม อู้ย...แต่ใครจะกล้าตกหลุมเนี่ย นอกจากคนเจ้าชู้รายนี้มีหน้าตาดึงดูดชวนใกล้ชิดก็ว่าไปอย่าง
2. คนเจ้าชู้ชอบทำให้คนอื่นเข้าใจว่า เค้าเป็นโสด ทั้งที่อาจมีแฟนแล้วก็ได้ หรือถ้าเป็นโสดจริงๆ ก็จะแสดงออกในทำนองว่า พร้อมเสมอที่จะเป็นเพื่อนหรือกิ๊กก็ได้กับทุกๆคน ยกเว้น หากใครไม่ได้อยู่ในสเปกของคนเจ้าชู้ละก็ ไม่ อยากจี๋จ๋าด้วยหรอก เออแฮะช่างเลือกซะด้วย นะเอ็ง!
3. คนเจ้าชู้ มักสารภาพว่า ชอบคนที่เค้าสนใจ แต่อย่าหวังจะได้ยินคำว่า อยากอยู่ด้วยตลอดไปเลยน้องเอ๋ยเพราะพวกไก่แจ้น่ะ ชอบง่าย หน่ายเร็ว ยิ่งถ้าเจอคนใหม่ๆก็ต้องไปเซ็กซ์เซอไซส์ เอ้ยโปรยเสน่ห์ต่ออีกแล้ว ทั้งที่บางคนก็ไม่รู้คิดได้ไงว่าตัวเองมีเสน่ห์... แปลกแท้ๆ ดังนั้น เรื่องไรเค้าจะผูกมัดด้วยการสัญญิงสัญญาล่ะ แต่หากคุณหลงคารมคนเจ้าชู้และรักเค้าตอบละก็หยั่งงี้ไม่ถือว่า เค้าหลอกคุณนะ เพราะคุณโดนเค้าทำให้ตาบอดต่างหากล่ะ ไม่รู้ซะเลยรึว่า โลกของความรักหักเหลี่ยมโหดน่ะ ทำให้คนซื่อๆกลายเป็นคนเซ่อมาเยอะแล้ว ฉะนั้น เวลาจะเชื่อคำพูดของใครก็ควรศึกษากันและกันให้ดีซะก่อน จะปลอดภัยกว่า
4. คนเจ้าชู้สามารถตีซี้กับทุกคนได้ง่าย เพราะความเป็นปลาไหลใส่สเกตของเค้าไงโอ้ย คนเจ้าชู้นี่นะ เป็นคนที่มั่วเก่งแถมยังหน้าด้านมากๆซะด้วย เพราะคุณพี่เล่นลอยหน้าลอยตาทำเป็นคุยกับใครต่อใครได้อย่างหน้าตาเฉย แถมยังเนียนหลายๆ ฟังแล้วเหมือนเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีเหลือเกิน ซึ่งอาจเป็นพรแสวงหรือพรสวรรค์ของเค้าจริงๆก็ได้แต่ความพยายามตีซี้กับใครเค้าก่อนน่ะ หากได้รับความเอ็นดูก็ดีไป เกรงจะไปสร้างความรำคาญให้คนอื่นซะมากกว่า งั้นเอางี้ดิ หัดมีกาลเทศะเข้าไว้แล้วคงจีบได้อีกหลายรายแหงๆเลย
5. คนเจ้าชู้มักเป็นขาประจำของงานปาร์ตี้ไม่ว่าจะถูกชวนให้ไปร่วมงานนั้นด้วยหรือไม่ ก็ตาม เค้าก็สามารถเดินเข้าไปในงานได้อย่างไม่สะทก สะท้าน ขอเพียงงานนั้นมีคนที่เค้าสนใจก็พอ โอ้โห ได้มั่วเข้าไปกินฟรีแล้วยังได้หลีแขกในงานอีก ถือว่าได้กำไร 2 เด้งเชียวนะ แล้วจะโง่ไม่รีบฉวยโอกาสหยั่งงี้ไว้เรอะ
6. ถ้าคนเจ้าชู้มีรถ เค้าจะรีบอาสาพาคนที่ชอบไปส่งถึงบ้านทันทีหากได้รู้จักกับคนที่ชอบ แต่วันนั้น ว่าที่หวานใจ รายล่าสุดของเค้าต้องกลับบ้านที่พัทยาพอดี เชื่อดิเค้าจะเสนอตัวไปส่งให้ถึงหน้าบ้านเชียวล่ะ เพราะอยากเอาชนะใจไง ถึงได้ฮึดมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่อยากรู้จังแฮะ ว่าถ้าต้องไปเชียงใหม่ล่ะ พี่ท่านยังจะใจสู้อยู่อ่ะป่าว?
7. คนเจ้าชู้เชื่อว่า สิ่งที่เค้าทำไปนั้นเป็นกำไรชีวิต ไม่ใช่ขาดทุนนะยะไม่ถือว่ากำไรได้ไง ในเมื่อได้รู้จักกับผู้คนตั้งมากมาย แถมยังได้ “ปากว่า มือถึง” แตะอั๋งใครต่อใครฟรีๆ ซะด้วย เท่าเนี้ยเค้าก็เชื่อว่าไม่เสียชาติเกิดแล้วล่ะแต่เอ โลกนี้ก็แสนประหลาด เพราะบางคนมีบุคลิกเข้าข่ายเจ้าชู้ แต่ที่จริงไม่ได้เจ้าชู้สักหน่อยก็มี เพราะพวกเจ้าชู้น่ะ จะมีคุณสมบัติอีกอย่างที่โดดเด่นจนจับไต๋ได้ก็คือ อยากมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เค้าเข้าไปขายขนมจีบด้วยน่ะซี ซึ่งหากขนมจีบของเค้าขายออกก็ย่อมหน้าบานเป็นจานกระด้ง แต่ถ้าถูกด่ากลับมาหรือไล่ให้ไปจีบคนอื่นแทน เค้าก็ไม่รู้สึกเสียหน้าหรอก เพราะหน้าเค้าน่ะฉาบซีเมนต์เอาไว้จนหนาเตอะ แค่นี้ไม่ทำให้หน้าแหกร้อก เพราะชินซะแล้ว แต่ถ้าให้หยุดกิจกรรม “ทอดสะพาน” สิ จะหงุดหงิด งุ่นง่านขึ้นมาทันที แหมเจ้าชู้มาตั้งแต่เกิด ก็เลิกยากหยั่งงี้แหละ
 
cursor